การบํารุงรักษาองค์กรและสิ่งแวดล้อม

ส่วนนี้ครอบคลุมการดำเนินการด้านการดูแลระบบต่างๆ เช่น การสร้าง การจัดการ และ การนำองค์กร สภาพแวดล้อม และโฮสต์เสมือนของ Apigee ออกในการติดตั้ง Apigee Edge สำหรับ Private Cloud

หากต้องการดูข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับองค์กร สภาพแวดล้อม และโฮสต์เสมือน โปรดดูเกี่ยวกับดาวเคราะห์ ภูมิภาค พ็อด องค์กร สภาพแวดล้อม และโฮสต์เสมือน

การตรวจสอบสถานะของผู้ใช้ องค์กร และสภาพแวดล้อม

เซิร์ฟเวอร์การจัดการมีบทบาทสำคัญในการรวมคอมโพเนนต์อื่นๆ ทั้งหมดไว้ด้วยกันในการติดตั้ง Edge Private Cloud ในองค์กร คุณตรวจสอบสถานะผู้ใช้ องค์กร และ การติดตั้งใช้งานในเซิร์ฟเวอร์การจัดการได้โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้curl

curl -u adminEmail:admin_passwd http://localhost:8080/v1/users
curl -u adminEmail:admin_passwd http://localhost:8080/v1/organizations
curl -u adminEmail;:admin_passwd http://localhost:8080/v1/organizations/orgname/deployments

ระบบควรแสดงสถานะ HTTP 200 สำหรับการเรียกทั้งหมด หากวิธีเหล่านี้ไม่ได้ผล ให้ทำดังนี้

  1. ตรวจสอบบันทึกของเซิร์ฟเวอร์การจัดการที่ /opt/apigee/var/log/apigee/management-server เพื่อหาข้อผิดพลาด
  2. โทรหาเซิร์ฟเวอร์การจัดการเพื่อตรวจสอบว่าเซิร์ฟเวอร์ทำงาน อย่างถูกต้องหรือไม่
  3. นำเซิร์ฟเวอร์ออกจาก ELB แล้วรีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์การจัดการ
    /opt/apigee/bin/apigee-service management-server restart

เกี่ยวกับการใช้ไฟล์การกำหนดค่า

คำสั่งที่แสดงด้านล่างจะใช้ไฟล์การกำหนดค่าเป็นอินพุต เช่น คุณส่งไฟล์การกำหนดค่าไปยังคำสั่ง setup-org เพื่อกำหนดพร็อพเพอร์ตี้ทั้งหมดขององค์กร รวมถึงสภาพแวดล้อมและโฮสต์เสมือน

ดูไฟล์การกำหนดค่าฉบับสมบูรณ์และข้อมูลเกี่ยวกับพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณตั้งค่าได้ในไฟล์การกำหนดค่า ที่หัวข้อเริ่มต้นใช้งานองค์กร

เกี่ยวกับการตั้งค่าโฮสต์เสมือน

โฮสต์เสมือนใน Edge จะกำหนดโดเมนและพอร์ต Edge Router ที่พร็อกซี API แสดง และ URL ที่แอปใช้เพื่อเข้าถึงพร็อกซี API โฮสต์เสมือนยังกำหนดด้วยว่า API Proxy จะเข้าถึงโดยใช้โปรโตคอล HTTP หรือโปรโตคอล HTTPS ที่เข้ารหัส

ใช้สคริปต์และการเรียก API ที่แสดงด้านล่างเพื่อสร้างโฮสต์เสมือน เมื่อสร้าง โฮสต์เสมือน คุณต้องระบุข้อมูลต่อไปนี้

  • ชื่อของโฮสต์เสมือนที่คุณใช้เพื่ออ้างอิงในพร็อกซี API
  • พอร์ตในเราเตอร์สำหรับโฮสต์เสมือน โดยปกติแล้ว พอร์ตเหล่านี้จะเริ่มต้นที่ 9001 และเพิ่มขึ้นทีละ 1 สำหรับโฮสต์เสมือนใหม่แต่ละรายการ
  • นามแฝงของโฮสต์ของโฮสต์เสมือน โดยปกติจะเป็นชื่อ DNS ของโฮสต์เสมือน

    เราเตอร์ Edge จะเปรียบเทียบส่วนหัวของโฮสต์ของคำขอขาเข้ากับรายการนามแฝงของโฮสต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนด API Proxy ที่จัดการคำขอ เมื่อส่งคำขอผ่านโฮสต์เสมือน ให้ระบุชื่อโดเมนที่ตรงกับนามแฝงโฮสต์ของโฮสต์เสมือน หรือระบุที่อยู่ IP ของเราเตอร์และส่วนหัว Host ที่มีนามแฝงโฮสต์

หากคุณมีรายการ DNS สำหรับโฮสต์เสมือน

ตัวอย่างเช่น หากคุณสร้างโฮสต์เสมือนที่มีนามแฝงโฮสต์เป็น myapis.apigee.net ในพอร์ต 9001 การดำเนินการคำขอ curl ไปยัง API ผ่านโฮสต์เสมือนนั้นอาจใช้รูปแบบต่อไปนี้

curl http://myapis.apigee.net:9001/proxy-base-path/resource-path

ตัวเลือก เมื่อคุณไม่มีรายการ DNS สำหรับโฮสต์เสมือน

ตัวเลือกหนึ่งเมื่อคุณไม่มีรายการ DNS คือการตั้งค่าชื่อแทนโฮสต์เป็นที่อยู่ IP ของ เราเตอร์และพอร์ตของโฮสต์เสมือนเป็น routerIP:port เช่น

192.168.1.31:9001

จากนั้นคุณก็curlสั่งการในแบบฟอร์มด้านล่างได้

curl http://routerIP:9001/proxy-base-path/resource-path

เราขอแนะนำให้ใช้ตัวเลือกนี้เนื่องจากใช้งานได้ดีกับ UI ของ Edge

หากมีเราเตอร์หลายตัว ให้เพิ่มนามแฝงโฮสต์สำหรับเราเตอร์แต่ละตัว โดยระบุที่อยู่ IP ของ เราเตอร์แต่ละตัวและพอร์ตของโฮสต์เสมือน

หรือจะตั้งค่าแทนชื่อโฮสต์เป็นค่า เช่น temp.hostalias.com ก็ได้ จากนั้นคุณต้องส่งส่วนหัว Host ในทุกคำขอ

curl -v http://routerIP:9001/proxy-base-path/resource-path -H 'Host: temp.hostalias.com'

หรือเพิ่มนามแฝงของโฮสต์ลงในไฟล์ /etc/hosts เช่น เพิ่มบรรทัดนี้ใน /etc/hosts

192.168.1.31   temp.hostalias.com

จากนั้นคุณจะส่งคำขอได้ราวกับว่ามีรายการ DNS ดังนี้

curl -v http://myapis.apigee.net:9001/proxy-base-path/resource-path