ดำเนินการต่อไปนี้ระหว่างเฟลโอเวอร์ฐานข้อมูล PostgreSQL
- หยุด
apigee-postgresql
บนต้นแบบปัจจุบันหากยังทำงานอยู่: วันที่/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql stop
- ไปที่โหนดสแตนด์บายและเรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อทำให้เป็นโหนดหลัก
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql promote-standby-to-master IPorDNSofOldMaster
หากมีการกู้คืนต้นแบบเก่าในอนาคต ก็ให้ทำให้โหนดนั้นเป็นโหนดสแตนด์บาย:
- ในต้นแบบปัจจุบัน ให้แก้ไขไฟล์การกำหนดค่าเพื่อตั้งค่าต่อไปนี้
PG_MASTER=IPorDNSofNewMaster PG_STANDBY=IPorDNSofOldMaster
- เปิดใช้การจำลองบนต้นแบบใหม่:
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql setup-replication-on-master -f configFIle
- ในต้นฉบับเดิม ให้แก้ไขไฟล์การกำหนดค่าเพื่อตั้งค่าต่อไปนี้
PG_MASTER=IPorDNSofNewMaster PG_STANDBY=IPorDNSofOldMaster
- หยุด
apigee-postgresql
บนต้นแบบเดิม: วันที่/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql stop
- ล้างข้อมูล Postgres เก่าในต้นแบบเก่า โดยทำดังนี้
rm -rf /opt/apigee/data/apigee-postgresql/
- กำหนดค่าต้นแบบเดิมเป็นโหมดสแตนด์บาย โดยทำดังนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql setup-replication-on-standby -f configFile
- เมื่อจำลองเสร็จแล้ว ให้ยืนยันสถานะการจำลองโดยกำหนดสิ่งต่อไปนี้
บนทั้ง 2 เซิร์ฟเวอร์ ระบบจะแสดงผลลัพธ์ที่เหมือนกันบนเซิร์ฟเวอร์ทั้งสองเครื่องเพื่อให้
การจำลองที่ประสบความสำเร็จ:
- ในโหนดหลัก ให้เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql postgres-check-master
ตรวจสอบว่ามีข้อความเป็นเอกสารหลัก
- ในโหนดสแตนด์บาย ให้ทำดังนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql postgres-check-standby
ตรวจสอบว่ามีข้อความ "สแตนด์บาย" อยู่
- ในโหนดหลัก ให้เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้