การบํารุงรักษาองค์กรและสิ่งแวดล้อม

Edge for Private Cloud v4.18.05

ส่วนนี้ครอบคลุมการดำเนินการดูแลระบบหลายอย่าง เช่น การสร้าง การจัดการ และ การนำองค์กร สภาพแวดล้อม และโฮสต์เสมือนของ Apigee ออกจาก Apigee Edge สำหรับ Private การติดตั้งระบบคลาวด์

สำหรับข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับองค์กร สภาพแวดล้อม และโฮสต์เสมือน โปรดดูเกี่ยวกับดาวเคราะห์ ภูมิภาค พ็อด องค์กร สภาพแวดล้อม และโฮสต์เสมือน

การตรวจสอบสถานะผู้ใช้ องค์กร และสภาพแวดล้อม

เซิร์ฟเวอร์การจัดการมีบทบาทสำคัญในการเก็บองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมดไว้ด้วยกันใน การติดตั้ง Edge Private Cloud ภายในองค์กร คุณสามารถตรวจสอบผู้ใช้ องค์กร และ สถานะการทำให้ใช้งานได้ในเซิร์ฟเวอร์การจัดการ โดยการออก curl ต่อไปนี้ คำสั่ง:

curl -u adminEmail:admin_passwd http://localhost:8080/v1/users
curl -u adminEmail:admin_passwd http://localhost:8080/v1/organizations
curl -u adminEmail;:admin_passwd http://localhost:8080/v1/organizations/orgname/deployments

ระบบควรแสดงสถานะ HTTP 200 สำหรับการเรียกทั้งหมด หากล้มเหลว ให้ดำเนินการดังนี้

  1. ตรวจสอบบันทึกของเซิร์ฟเวอร์การจัดการที่ /opt/apigee/var/log/apigee/management-server เพื่อหาข้อผิดพลาด
  2. เรียกใช้เซิร์ฟเวอร์การจัดการเพื่อตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ อย่างเหมาะสม
  3. นำเซิร์ฟเวอร์ออกจาก ELB จากนั้นรีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์การจัดการ
    /opt/apigee/bin/apigee-service management-server restart

เกี่ยวกับการใช้ไฟล์การกำหนดค่า

คำสั่งที่แสดงด้านล่างจะใช้ไฟล์การกำหนดค่าเป็นอินพุต ตัวอย่างเช่น คุณส่งไฟล์การกำหนดค่าไปที่ คำสั่ง set-org เพื่อกำหนดพร็อพเพอร์ตี้ทั้งหมดขององค์กร รวมถึงสภาพแวดล้อม และโฮสต์เสมือน

สำหรับไฟล์การกำหนดค่าที่สมบูรณ์ และข้อมูลเกี่ยวกับพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณสามารถตั้งค่าในการกำหนดค่า โปรดดูเริ่มต้นใช้งานองค์กร

เกี่ยวกับการตั้งค่าโฮสต์เสมือน

โฮสต์เสมือนใน Edge จะกำหนดโดเมนและพอร์ต Edge Router ที่พร็อกซี API อยู่ เปิดเผย และตามส่วนขยาย URL ที่แอปใช้ในการเข้าถึงพร็อกซี API โฮสต์เสมือนด้วย กำหนดว่ามีการเข้าถึงพร็อกซี API โดยใช้โปรโตคอล HTTP หรือ HTTPS ที่เข้ารหัส

ใช้สคริปต์และการเรียก API ที่แสดงด้านล่างเพื่อสร้างโฮสต์เสมือน เมื่อคุณสร้าง โฮสต์เสมือน คุณต้องระบุข้อมูลต่อไปนี้

  • ชื่อของโฮสต์เสมือนที่คุณใช้เพื่ออ้างอิงใน API ของคุณ พร็อกซี
  • พอร์ตบนเราเตอร์สำหรับโฮสต์เสมือน โดยปกติแล้ว พอร์ตเหล่านี้จะเริ่มต้น ที่ 9001 และเพิ่มครั้งละหนึ่งรายการสำหรับโฮสต์เสมือนใหม่ทุกๆ รายการ
  • ชื่อแทนโฮสต์ของโฮสต์เสมือน โดยทั่วไปจะเป็นชื่อ DNS ของเครือข่ายเสมือน เป็นโฮสต์

    Edge Router จะเปรียบเทียบส่วนหัวโฮสต์ของคำขอที่เข้ามากับรายการชื่อแทนของโฮสต์ดังนี้ ส่วนหนึ่งในการกำหนดพร็อกซี API ที่จัดการคำขอ เมื่อส่งคำขอผ่าน โฮสต์เสมือน ให้ระบุชื่อโดเมนที่ตรงกับชื่อแทนของโฮสต์ของโฮสต์เสมือน หรือ ระบุที่อยู่ IP ของเราเตอร์และส่วนหัวโฮสต์ที่มีชื่อแทนของโฮสต์

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสร้างโฮสต์เสมือนที่มีชื่อแทนโฮสต์ myapis.apigee.net บนพอร์ต 9001 แล้วเรียกใช้ คำขอ curl ที่ส่งไปยัง API ผ่านโฮสต์เสมือนดังกล่าวสามารถใช้รายการใดรายการหนึ่งต่อไปนี้ แบบฟอร์ม:

  • หากคุณมีรายการ DNS สำหรับ myapis.apigee.net ให้ทำดังนี้
    curl http://myapis.apigee.net:9001/proxy-base-path/resource-path
  • หากคุณไม่มีรายการ DNS สำหรับ myapis.apigee.net ให้ทำดังนี้
    curl http://routerIP:9001/proxy-base-path/resource-path -H 'Host: myapis.apigee.net'

    ในแบบฟอร์มที่สอง คุณจะระบุที่อยู่ IP ของเราเตอร์ และส่งชื่อแทนโฮสต์ใน ส่วนหัวของโฮสต์

ตัวเลือก เมื่อคุณไม่มีรายการ DNS สำหรับโฮสต์เสมือน

ทางเลือกหนึ่งในกรณีที่คุณไม่มีรายการ DNS คือตั้งค่าชื่อแทนโฮสต์เป็นที่อยู่ IP ของ เราเตอร์และพอร์ตของโฮสต์เสมือนเป็น routerIP:port เช่น

192.168.1.31:9001

จากนั้นสร้างคำสั่ง curl ในแบบฟอร์มด้านล่าง

curl http://routerIP:9001/proxy-base-path/resource-path

แนะนำให้ใช้ตัวเลือกนี้เนื่องจากทำงานได้ดีกับ Edge UI

หากคุณมีเราเตอร์หลายตัว ให้เพิ่มชื่อแทนโฮสต์สำหรับเราเตอร์แต่ละตัว โดยระบุที่อยู่ IP ของ เราเตอร์แต่ละชุดและพอร์ตของโฮสต์เสมือน

อีกวิธีหนึ่งคือคุณสามารถตั้งค่าชื่อแทนโฮสต์เป็นค่า เช่น temp.hostalias.com จากนั้นคุณต้องส่งส่วนหัว Host ในทุกคำขอ

curl -v http://routerIP:9001/proxy-base-path/resource-path -H 'Host: temp.hostalias.com'

หรือเพิ่มชื่อแทนโฮสต์ลงในไฟล์ /etc/hosts ตัวอย่างเช่น เพิ่มบรรทัดนี้ลงใน /etc/hosts:

192.168.1.31   temp.hostalias.com

จากนั้นคุณจะส่งคำขอได้ราวกับมีรายการ DNS ดังนี้

curl -v http://myapis.apigee.net:9001/proxy-base-path/resource-path