Edge for Private Cloud v4.18.05
หากต้องการกำหนดค่า Edge หลังจากการติดตั้ง คุณจะใช้ไฟล์ .properties
ร่วมกับยูทิลิตีของ Edge เช่น หากต้องการกำหนดค่า TLS/SSL ใน Edge UI คุณจะต้องแก้ไขไฟล์ .properties
เพื่อตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น การเปลี่ยนแปลงไฟล์ .properties
จะทำให้คุณต้องรีสตาร์ทคอมโพเนนต์ Edge ที่ได้รับผลกระทบ
Apigee เรียกเทคนิคการแก้ไขไฟล์ .properties
ว่าโค้ดที่มีการกำหนดค่า โดยพื้นฐานแล้ว โค้ดที่มี config คือเครื่องมือค้นหาคีย์/ค่าตามการตั้งค่าในไฟล์ .properties
ในโค้ดที่มีการกำหนดค่า คีย์จะเรียกว่าโทเค็น ดังนั้น หากต้องการกำหนดค่า Edge คุณจะต้องตั้งค่าโทเค็นในไฟล์ .properties
โค้ดที่มีการกำหนดค่าช่วยให้คอมโพเนนต์ Edge ตั้งค่าเริ่มต้นที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ได้ ช่วยให้ทีมติดตั้งลบล้างการตั้งค่าเหล่านั้นตามโทโปโลยีการติดตั้งได้ และช่วยให้ลูกค้าลบล้างพร็อพเพอร์ตี้ที่เลือกได้
หากคุณคิดว่าเป็นลำดับชั้น การตั้งค่าจะจัดเรียงดังนี้ตามการตั้งค่าของลูกค้าที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดเพื่อลบล้างการตั้งค่าจากทีมโปรแกรมติดตั้งหรือ Apigee
- ลูกค้า
- ผู้ติดตั้ง
- Apigee
วิธีใช้ไฟล์ .properties
ในฐานะลูกค้า คุณจะแก้ไขได้เฉพาะไฟล์ .properties
ในไดเรกทอรี /opt/apigee/customer/application
คอมโพเนนต์แต่ละรายการจะมีไฟล์ .properties
ของตัวเองในไดเรกทอรีนั้น เช่น router.properties
และ management-server.properties
เช่น หากต้องการสร้างไฟล์ .properties
ให้ทำดังนี้
- สร้างไฟล์ในเครื่องมือแก้ไขในฐานะผู้ใช้ใดก็ได้
- ใช้
chown
เพื่อเปลี่ยนเจ้าของไฟล์เป็น "apigee:apigee" หรือหากคุณเปลี่ยนผู้ใช้ที่เรียกใช้บริการ Edge จากผู้ใช้ "apigee" ให้ใช้ chown กับไฟล์เพื่อเปลี่ยนเจ้าของเป็นผู้ใช้ที่เรียกใช้บริการ Edge
หากต้องการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ของคอมโพเนนต์ ให้แก้ไขไฟล์ .properties
ที่เกี่ยวข้องเพื่อตั้งค่าโทเค็น จากนั้นรีสตาร์ทคอมโพเนนต์
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service component restart
ตัวอย่างเช่น หลังจากแก้ไข router.properties
ให้รีสตาร์ทเราเตอร์โดยทำดังนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service edge-router restart
เมื่อคุณอัปเกรด Edge ระบบจะอ่านไฟล์ .properties
ในไดเรกทอรี /opt/apigee/customer/application
ซึ่งหมายความว่าการอัปเกรดจะเก็บรักษาพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณตั้งค่าไว้ในคอมโพเนนต์
ตำแหน่งของไฟล์ .properties
ไดเรกทอรีระดับบนสุดสำหรับไฟล์ .properties
ของคอมโพเนนต์ Edge มี 3 ไดเรกทอรี ได้แก่ การติดตั้ง เจ้าของ และลูกค้า ตำแหน่งเริ่มต้นจะแสดงในตารางต่อไปนี้
เจ้าของ | ไดเรกทอรีรูทของโทเค็นเริ่มต้น |
---|---|
ส่วนประกอบ | /opt/apigee/component_name/conf ตำแหน่งที่ component_name ระบุคอมโพเนนต์ ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้
|
การติดตั้ง | /opt/apigee/token |
ลูกค้า | /opt/apigee/customer |
ระบุค่าปัจจุบันของโทเค็น
ก่อนตั้งค่าโทเค็นในไฟล์ .properties
สําหรับคอมโพเนนต์ ให้ตรวจสอบค่าปัจจุบันก่อนโดยใช้คําสั่งต่อไปนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service component_name configure -search token
โดยที่ component_name คือชื่อของคอมโพเนนต์ และ token คือโทเค็นที่จะตรวจสอบ
คำสั่งนี้จะค้นหาลําดับชั้นของไฟล์ .properties
เพื่อระบุค่าปัจจุบันของโทเค็น
ตัวอย่างเช่น หากต้องการตรวจสอบค่าปัจจุบันของโทเค็น conf_http_HTTPRequest.line.limit
สำหรับเราเตอร์ ให้ทำดังนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service edge-router configure -search conf_http_HTTPRequest.line.limit
คุณควรเห็นผลลัพธ์ในแบบฟอร์ม:
Found key conf_http_HTTPRequest.line.limit, with value, 4k, in /opt/apigee/edge-router/token/default.properties
ตั้งค่าโทเค็นในไฟล์ .properties
วิธีลบล้างค่าของโทเค็น
- แก้ไขไฟล์
.properties
ของคอมโพเนนต์เพื่อตั้งค่าโทเค็น หากไม่มีไฟล์ดังกล่าว ให้สร้างไฟล์ - รีสตาร์ทคอมโพเนนต์
- ตรวจสอบค่าโทเค็น
เช่น หากต้องการกำหนดขีดจำกัดบรรทัดคำขอสำหรับ Edge Router ให้ทำดังนี้
- แก้ไขไฟล์
/opt/apigee/customer/application/router.properties
เพื่อตั้งค่า โทเค็นconf_http_HTTPRequest.line.limit
โดยทำดังนี้conf_http_HTTPRequest.line.limit=8k
- รีสตาร์ท Edge Router โดยทำดังนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service edge-router restart
- ตรวจสอบค่าของโทเค็นดังนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service edge-router configure -search conf_http_HTTPRequest.line.limit
ตั้งค่าโทเค็นที่มีหลายค่า
โทเค็นบางรายการจะใช้รายการค่าที่คั่นด้วยคอมมา ตัวอย่างเช่น โทเค็น conf_security_rbac.restricted.resources
จะนํารายการ URI ที่จํากัดเพื่อให้มีเพียงผู้ดูแลระบบเท่านั้นที่เรียกใช้รายการเหล่านั้นได้ วิธีดูค่าของ conf_security_rbac.restricted.resources
cd /opt/apigee/edge-management-server
grep -ri "conf_security_rbac.restricted.resources" *
เอาต์พุตประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้
token/default.properties:conf_security_rbac.restricted.resources=/environments,/environments/*,/environments/*/virtualhosts,/environments/*/virtualhosts/*,/pods,/environments/*/servers,/rebuildindex,/users/*/status
หากต้องการตั้งค่าโทเค็นที่ใช้รายการค่า ให้เพิ่มค่าใหม่ต่อท้ายค่าปัจจุบันของโทเค็นในไฟล์ .properties
ดังนั้น หากต้องการเพิ่ม URI /myuri/*
ไปยัง conf_security_rbac.restricted.resources
ให้แก้ไขไฟล์ /opt/apigee/customer/application/management-server.properties
ดังที่แสดงด้านล่าง
conf_security_rbac.restricted.resources=/environments,/environments/*,/environments/*/virtualhosts,/environments/*/virtualhosts/*,/pods,/environments/*/servers,/rebuildindex,/users/*/status,/myuri/*
ค้นหาโทเค็น
ในกรณีส่วนใหญ่ โทเค็นที่คุณต้องตั้งค่าจะระบุไว้ในคู่มือนี้ แต่หากต้องการระบุโทเค็นที่ใช้ในการลบล้างพร็อพเพอร์ตี้ ให้ใช้ grep
ในโฟลเดอร์ source
ของคอมโพเนนต์
ตัวอย่างเช่น หากคุณทราบว่าใน Edge เวอร์ชันก่อนหน้าคุณได้ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ session.maxAge
ไว้และต้องการทราบค่าโทเค็นที่ใช้ตั้งค่า ให้ป้อน grep
สำหรับพร็อพเพอร์ตี้ในไดเรกทอรี /opt/apigee/edge-ui/source
grep -ri "session.maxAge" /opt/apigee/edge-ui/source
คุณควรเห็นผลลัพธ์ในรูปแบบต่อไปนี้
/opt/apigee/edge-ui/source/conf/application.conf:session.maxAge={T}conf_application_session.maxage{/T}
สตริงระหว่างแท็ก {T}{/T} คือโทเค็นที่คุณตั้งค่าไว้ในไฟล์ .properties
ตั้งค่าโทเค็นที่คอมเมนต์ออกอยู่
โทเค็นบางรายการจะมีการแสดงความคิดเห็นในไฟล์การกำหนดค่า Edge หากคุณพยายามตั้งค่าโทเค็นที่มีการยกเลิกการคอมเมนต์ไว้ ระบบจะไม่สนใจการตั้งค่านั้น
หากต้องการตั้งค่าโทเค็นที่ยกเลิกการคอมเมนต์ ให้ใช้ไวยากรณ์พิเศษในรูปแบบต่อไปนี้
conf/file.extension+propertyName=propertyValue
ตัวอย่างเช่น คุณต้องการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ชื่อ HTTPClient.proxy.host
ใน Message Processor จากนั้นgrep
พร็อพเพอร์ตี้เพื่อระบุโทเค็นของพร็อพเพอร์ตี้ ดังนี้
cd /opt/apigee/edge-message-processor
grep -ri "HTTPClient.proxy.host" *
คำสั่ง grep
จะแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบที่มีค่าโทเค็น โปรดสังเกตว่าชื่อพร็อพเพอร์ตี้ถูกยกเลิกการคอมเมนต์ไว้ ดังที่ระบุไว้ด้วยคำนำหน้า # ในชื่อพร็อพเพอร์ตี้
source/conf/http.properties:#HTTPClient.proxy.host={T}conf_http_HTTPClient.proxy.host{/T} token/default.properties:conf_http_HTTPClient.proxy.host= conf/http.properties:#HTTPClient.proxy.host=
หากต้องการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ ให้แก้ไข /opt/apigee/customer/application/message-processor.properties
เพื่อตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ดังนี้
conf/http.properties+HTTPClient.proxy.host=myhost.name.com
โปรดสังเกตว่าชื่อพร็อพเพอร์ตี้มี conf/http.properties+
นำหน้า ตำแหน่ง และชื่อของไฟล์การกําหนดค่าที่มีพร็อพเพอร์ตี้ตามด้วย "+"
หลังจากรีสตาร์ทโปรแกรมประมวลผลข้อความแล้ว ให้ตรวจสอบไฟล์ /opt/apigee/edge-message-processor/conf/http.properties
ดังนี้
cat /opt/apigee/edge-message-processor/conf/http.properties
คุณจะเห็นชุดพร็อพเพอร์ตี้ในตอนท้ายของไฟล์ในรูปแบบ
conf/http.properties:HTTPClient.proxy.host=myhost.name.com