การเปิดใช้งานการรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์และแผนที่ทางภูมิศาสตร์

การรวบรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์ช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลวิเคราะห์สําหรับการเรียก API ตามแอตทริบิวต์ทางภูมิศาสตร์ เช่น ภูมิภาค ทวีป ประเทศ และเมือง จากข้อมูลวิเคราะห์นี้ คุณจะดู GeoMap ใน UI ของ Edge ที่แสดงตำแหน่งของคำขอ API ได้

การรวบรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์ทํางานโดยการดึงข้อมูลทางภูมิศาสตร์จากฐานข้อมูลของบุคคลที่สามและเพิ่ม ลงในข้อมูลวิเคราะห์ที่ Edge รวบรวม ข้อมูลทางภูมิศาสตร์อาจมีเมือง ประเทศ ทวีป เขตเวลา และภูมิภาคของคำขอที่ส่งไปยังพร็อกซี API

หากต้องการใช้การรวมทางภูมิศาสตร์ คุณต้องซื้อฐานข้อมูล GeoIp2 ของ Maxmind ซึ่งมีข้อมูลทางภูมิศาสตร์นี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.maxmind.com/en/geoip2-databases

การเปิดใช้การรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์

ระบบจะไม่ได้เปิดใช้การรวมทางภูมิศาสตร์โดยค่าเริ่มต้น หากต้องการเปิดใช้การรวบรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์ คุณต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • ในเซิร์ฟเวอร์ Qpid ทั้งหมด ให้ติดตั้งฐานข้อมูล MaxMind และกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ Qpid ให้ใช้ ฐานข้อมูลดังกล่าว
  • เปิดใช้การแสดงแผนที่ภูมิศาสตร์ใน UI ของ Edge

ติดตั้งฐานข้อมูล MaxMind ในเซิร์ฟเวอร์ Qpid ของ Edge ทั้งหมด

ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อติดตั้งฐานข้อมูล MaxMind ในเซิร์ฟเวอร์ Qpid Edge ทั้งหมด

  1. รับฐานข้อมูล GeoIp2 ของ Maxmind
  2. สร้างโฟลเดอร์ต่อไปนี้ในโหนดเซิร์ฟเวอร์ Qpid
    /opt/apigee/maxmind
  3. ดาวน์โหลดฐานข้อมูล GeoIp2 ของ Maxmind ไปยัง /opt/apigee/maxmind
  4. เปลี่ยนการเป็นเจ้าของไฟล์ฐานข้อมูลเป็นผู้ใช้ "apigee" โดยทำดังนี้
    chown apigee:apigee /opt/apigee/maxmind/GeoIP2-City_20160127.mmdb
  5. ตั้งค่าสิทธิ์ในฐานข้อมูลเป็น 744
    chmod 744 /opt/apigee/maxmind/GeoIP2-City_20160127.mmdb
  6. ตั้งค่าโทเค็นต่อไปนี้ใน /opt/apigee/customer/application/qpid-server.properties หากไม่มีไฟล์ดังกล่าว ให้สร้างไฟล์โดยทำดังนี้
    conf_ingestboot-service_vdim.geo.ingest.enabled=true
    conf_ingestboot-service_vdim.geo.maxmind.db.path=/opt/apigee/maxmind/GeoIP2-City_20160127.mmdb

    หากคุณจัดเก็บฐานข้อมูล Maxmind GeoIp2 ไว้ในตำแหน่งอื่น ให้แก้ไขพร็อพเพอร์ตี้เส้นทาง ตามนั้น

    โปรดทราบว่าไฟล์ฐานข้อมูลนี้มีหมายเลขเวอร์ชัน หากคุณได้รับไฟล์ฐานข้อมูลที่อัปเดตในภายหลัง ไฟล์ดังกล่าวอาจมีหมายเลขเวอร์ชันที่แตกต่างกัน หรือจะสร้างลิงก์สัญลักษณ์ไปยัง ไฟล์ฐานข้อมูลและใช้ลิงก์สัญลักษณ์ใน qpid-server.properties ก็ได้

    เช่น สร้างลิงก์สัญลักษณ์สำหรับ "GeoIP2-City-current.mmdb" ไปยัง "GeoIP2-City_20160127.mmdb" หาก ต่อมาคุณได้รับฐานข้อมูลใหม่ที่มีชื่อไฟล์แตกต่างกัน คุณจะต้องอัปเดต Symlink เท่านั้น ไม่ต้องกำหนดค่าและรีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์ Qpid ใหม่

  7. เปลี่ยนการเป็นเจ้าของไฟล์ qpid-server.properties เป็นผู้ใช้ "apigee" โดยทำดังนี้
    chown apigee:apigee /opt/apigee/customer/application/qpid-server.properties
  8. รีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์ Qpid
    /opt/apigee/bin/apigee-service/bin/apigee-service edge-qpid-server restart
  9. ทำกระบวนการนี้ซ้ำในทุกโหนด Qpid
  10. วิธียืนยันว่าการรวบรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์ทํางานได้
    1. ทริกเกอร์การเรียกพร็อกซี API หลายรายการในพร็อกซี API ตัวอย่าง
    2. รอประมาณ 5-10 นาทีเพื่อให้การรวบรวมข้อมูลเสร็จสมบูรณ์
    3. เปิดคอนโซลและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ Edge Postgres โดยทำดังนี้
      psql -h /opt/apigee/var/run/apigee-postgresql/ -U apigee -d apigee
    4. เรียกใช้การค้นหา SELECT ในตาราง analytics.agg_geo เพื่อแสดงแถวที่มี แอตทริบิวต์ทางภูมิศาสตร์
      select * from analytics.agg_geo;

      คุณควรเห็นคอลัมน์ต่อไปนี้ในผลการค้นหา ซึ่งดึงข้อมูลมาจากฐานข้อมูล GeoIp2 ของ Maxmind ax_geo_city, ax_geo_country, ax_geo_continent, ax_geo_timezone, ax_geo_region

      หากagg_geo ตารางไม่ได้รับการป้อนข้อมูล ให้ตรวจสอบบันทึกเซิร์ฟเวอร์ Qpid ที่ /opt/apigee/var/log/edge-qpid-server/logs/ เพื่อตรวจหาข้อยกเว้นที่อาจเกิดขึ้น

เปิดใช้แผนที่ภูมิศาสตร์ใน UI ของ Edge

ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเปิดใช้แผนที่ภูมิศาสตร์ใน UI ของ Edge

  1. ตั้งค่าโทเค็นต่อไปนี้ใน /opt/apigee/customer/application/ui.properties เพื่อเปิดใช้แผนที่ภูมิศาสตร์ หากไม่มีไฟล์ดังกล่าว ให้สร้างไฟล์โดยทำดังนี้
    conf_apigee_apigee.feature.disablegeomap=false
    เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้านี้
  2. เปลี่ยนการเป็นเจ้าของไฟล์ ui.properties เป็นผู้ใช้ "apigee" โดยทำดังนี้
    chown apigee:apigee /opt/apigee/customer/application/ui.properties
  3. รีสตาร์ท UI ของ Edge โดยทำดังนี้
    /opt/apigee/bin/apigee-service/bin/apigee-service edge-ui restart
  4. ใน UI ของ Edge ให้เลือก Analytics > GeoMap เพื่อแสดงข้อมูลการรวบรวมทางภูมิศาสตร์

การอัปเดตฐานข้อมูล GeoIp2 ของ MaxMind

MaxMind จะออกการอัปเดตฐานข้อมูล GeoIp2 ของ Maxmind เป็นระยะ หากได้รับฐานข้อมูลที่อัปเดต ให้ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อติดตั้งใน Edge

  1. รับฐานข้อมูล GeoIp2 ของ Maxmind ที่อัปเดตแล้ว
  2. ดาวน์โหลดฐานข้อมูล GeoIp2 ของ Maxmind ไปยัง /opt/apigee/maxmind
  3. ตรวจสอบชื่อไฟล์ฐานข้อมูล หากเป็นไฟล์เดียวกันกับไฟล์เก่าตามที่กำหนดไว้ใน /opt/apigee/customer/application/qpid-server.properties ให้ทำตามขั้นตอนถัดไป อย่างไรก็ตาม หากไฟล์มีชื่ออื่น คุณต้องแก้ไขไฟล์ qpid-server.properties เพื่อระบุชื่อของไฟล์ฐานข้อมูลใหม่ แล้วรีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์ Qpid ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น

    หรือจะสร้าง Symlink ไปยังไฟล์ก็ได้ เช่น สร้าง Symlink สำหรับ "GeoIP2-City-current.mmdb" ไปยัง "GeoIP2-City_20160127.mmdb" หากต่อมาคุณได้รับฐานข้อมูลใหม่ ที่มีชื่อไฟล์แตกต่างกัน คุณจะต้องอัปเดต Symlink เท่านั้น ไม่จำเป็นต้อง กำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ Qpid ใหม่

  4. เปลี่ยนการเป็นเจ้าของไฟล์ฐานข้อมูลเป็นผู้ใช้ "apigee" โดยทำดังนี้
    chown apigee:apigee /opt/apigee/maxmind/GeoIP2-City_20160127.mmdb
  5. ตั้งค่าสิทธิ์ในฐานข้อมูลเป็น 744
    chmod 744 /opt/apigee/maxmind/GeoIP2-City_20160127.mmdb
  6. รีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์ Qpid
    /opt/apigee/bin/apigee-service/bin/apigee-service edge-qpid-server restart
  7. ทำกระบวนการนี้ซ้ำในทุกโหนด Qpid