การเพิ่มศูนย์ข้อมูล

Edge for Private Cloud v4.18.05

เอกสารนี้อธิบายวิธีเพิ่มศูนย์ข้อมูล (หรือที่เรียกว่าภูมิภาค) ไปยังศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเพิ่มศูนย์ข้อมูล

คุณต้องเข้าใจวิธีกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ OpenLDAP, ZooKeeper, Cassandra และ Postgres ในศูนย์ข้อมูลต่างๆ ก่อนจึงจะติดตั้งเพิ่มศูนย์ข้อมูลได้ นอกจากนี้ คุณต้องตรวจสอบว่าพอร์ตที่จำเป็นเปิดอยู่ระหว่างโหนดในศูนย์ข้อมูล 2 แห่ง

  • OpenLDAP

    แต่ละศูนย์ข้อมูลมีเซิร์ฟเวอร์ OpenLDAP ของตัวเองที่กำหนดค่าให้เปิดใช้การทําซ้ำ เมื่อติดตั้งศูนย์ข้อมูลใหม่ คุณต้องกำหนดค่า OpenLDAP ให้ใช้การจำลองข้อมูล และคุณต้องกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ OpenLDAP ในศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่ให้ใช้การจำลองข้อมูล

  • ZooKeeper

    สําหรับพร็อพเพอร์ตี้ ZK_HOSTS สําหรับทั้ง 2 ดาต้าเซ็นเตอร์ ให้ระบุที่อยู่ IP หรือชื่อ DNS ของโหนด ZooKeeper ทั้งหมดจากทั้ง 2 ดาต้าเซ็นเตอร์ตามลําดับเดียวกัน และทําเครื่องหมายโหนดด้วยตัวแก้ไข ":observer" ส่วนโหนดที่ไม่มีตัวแก้ไข :observer จะเรียกว่า "โหวตเตอร์" คุณต้องมี "ผู้ลงคะแนนเสียง" เป็นจํานวนคี่ในการกําหนดค่า

    ในโทโปโลยีนี้ โฮสต์ ZooKeeper ในโฮสต์ 9 เป็นผู้สังเกตการณ์

    ในตัวอย่างไฟล์การกําหนดค่าที่แสดงด้านล่างโหนด 9 ติดแท็กด้วยตัวแก้ไข :observer เพื่อให้คุณมีโหวตเตอร์ 5 คน ได้แก่ โหนด 1, 2, 3, 7 และ 8

    สําหรับพร็อพเพอร์ตี้ ZK_CLIENT_HOSTS ของศูนย์ข้อมูลแต่ละแห่ง ให้ระบุที่อยู่ IP หรือชื่อ DNS ของโหนด ZooKeeper เท่านั้นในศูนย์ข้อมูลนั้นๆ ตามลําดับเดียวกันสําหรับโหนด ZooKeeper ทั้งหมดในศูนย์ข้อมูล

  • Cassandra

    ดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมดต้องมีโหนด Cassandra เท่ากัน

    สําหรับ CASS_HOSTS สําหรับศูนย์ข้อมูลแต่ละแห่ง ให้ตรวจสอบว่าคุณระบุที่อยู่ IP ทั้งหมดของ Cassandra (ไม่ใช่ชื่อ DNS) สําหรับทั้ง 2 ศูนย์ข้อมูล สําหรับศูนย์ข้อมูล 1 ให้แสดงรายการโหนด Cassandra ในศูนย์ข้อมูลนั้นก่อน สำหรับศูนย์ข้อมูล 2 ให้แสดงรายการโหนด Cassandra ในศูนย์ข้อมูลนั้นก่อน แสดงรายการโหนด Cassandra ในลําดับเดียวกันสําหรับโหนด Cassandra ทั้งหมดในศูนย์ข้อมูล

    โหนด Cassandra ทั้งหมดต้องมีส่วนต่อท้าย ':d,r' เช่น 'ip:1,1 = ดาต้าเซ็นเตอร์ 1 และแร็ค/โซนความพร้อมให้บริการ 1 และ 'ip:2,1 = ดาต้าเซ็นเตอร์ 2 และแร็ค/โซนความพร้อมให้บริการ 1

    เช่น "192.168.124.201:1,1 192.168.124.202:1,1 192.168.124.203:1,1 192.168.124.204:2,1 192.168.124.205:2,1 192.168.124.206:2,1"

    ระบบจะใช้โหนดแรกในแร็ค/โซนความพร้อมใช้งาน 1 ของศูนย์ข้อมูลแต่ละแห่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง ในรูปแบบการติดตั้งใช้งานนี้ การตั้งค่า Cassandra จะมีลักษณะดังนี้

  • Postgres

    โดยค่าเริ่มต้น Edge จะติดตั้งโหนด Postgres ทั้งหมดในโหมดหลัก อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณมีศูนย์ข้อมูลหลายแห่ง คุณต้องกำหนดค่าโหนด Postgres ให้ใช้การจำลองแบบมาสเตอร์สแตนด์บายเพื่อให้โหนดสแตนด์บายสามารถรับส่งข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์ต่อไปได้ในกรณีที่โหนดมาสเตอร์ทำงานไม่ถูกต้อง โดยทั่วไป คุณจะต้องกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์หลักของ Postgres ในศูนย์ข้อมูลแห่งที่หนึ่ง และเซิร์ฟเวอร์สแตนด์บายในศูนย์ข้อมูลแห่งที่ 2

    หากมีการกำหนดค่าให้ศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่มีโหนด Postgres 2 โหนดที่ทำงานในโหมดหลัก/สแตนด์บายอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้จะต้องยกเลิกการลงทะเบียนโหนดสแตนด์บายที่มีอยู่ แล้วแทนที่ด้วยโหนดสแตนด์บายในศูนย์ข้อมูลใหม่

    ตารางต่อไปนี้แสดงการกำหนดค่า Postgres ก่อนและหลังสำหรับทั้ง 2 สถานการณ์

    ก่อน หลัง

    โหนดหลัก Postgres รายการเดียวใน dc-1

    โหนดหลัก Postgres ใน dc-1

    โหนด Postgres สแตนด์บายใน dc-2

    โหนดหลัก Postgres ใน dc-1

    โหนด Postgres สแตนด์บายใน dc-1

    โหนดหลัก Postgres ใน dc-1

    โหนด Postgres สแตนด์บายใน dc-2

    ยกเลิกการลงทะเบียนโหนด Postgres สแตนด์บายเดิมใน dc-1

  • ข้อกำหนดของพอร์ต

    คุณต้องตรวจสอบว่าพอร์ตที่จำเป็นเปิดอยู่ระหว่างโหนดในศูนย์ข้อมูล 2 แห่ง ดูแผนภาพพอร์ตได้ที่ข้อกำหนดของพอร์ต

การอัปเดตศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่

การเพิ่มศูนย์ข้อมูลจะทำให้คุณต้องทําตามขั้นตอนในการติดตั้งและกําหนดค่าโหนดศูนย์ข้อมูลใหม่ แต่คุณจะต้องอัปเดตโหนดในศูนย์ข้อมูลเดิมด้วย การแก้ไขเหล่านี้จําเป็นเนื่องจากคุณกําลังเพิ่มโหนด Cassandra และ ZooKeeper ใหม่ในศูนย์ข้อมูลใหม่ซึ่งต้องเข้าถึงศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่ได้ และคุณต้องกําหนดค่า OpenLDAP ใหม่เพื่อใช้การจําลอง

การสร้างไฟล์การกําหนดค่า

ด้านล่างนี้คือไฟล์การกําหนดค่าแบบเงียบสําหรับศูนย์ข้อมูล 2 แห่ง โดยที่แต่ละศูนย์ข้อมูลมีโหนด 6 โหนดตามที่แสดงในโทโปโลยีการติดตั้ง โปรดทราบว่าไฟล์การกําหนดค่าสําหรับ dc-1 จะเพิ่มการตั้งค่าเพิ่มเติมในรายการต่อไปนี้

  • กำหนดค่า OpenLDAP ด้วยการทำซ้ำในโหนด OpenLDAP 2 โหนด
  • เพิ่มโหนด Cassandra และ ZooKeeper ใหม่จาก dc-2 ลงในไฟล์กำหนดค่าสำหรับ dc-1
# Datacenter 1
IP1=IPorDNSnameOfNode1
IP2=IPorDNSnameOfNode2
IP3=IPorDNSnameOfNode3
IP7=IPorDNSnameOfNode7
IP8=IPorDNSnameOfNode8
IP9=IPorDNSnameOfNode9 
HOSTIP=$(hostname -i)
MSIP=$IP1
ADMIN_EMAIL=opdk@google.com
APIGEE_ADMINPW=Secret123
LICENSE_FILE=/tmp/license.txt
USE_LDAP_REMOTE_HOST=n
LDAP_TYPE=2
LDAP_SID=1
LDAP_PEER=$IP7
APIGEE_LDAPPW=secret
MP_POD=gateway-1
REGION=dc-1
ZK_HOSTS="$IP1 $IP2 $IP3 $IP7 $IP8 $IP9:observer"
ZK_CLIENT_HOSTS="$IP1 $IP2 $IP3"
# Must use IP addresses for CASS_HOSTS, not DNS names.
CASS_HOSTS="$IP1:1,1 $IP2:1,1 $IP3:1,1 $IP7:2,1 $IP8:2,1 $IP9:2,1"
SKIP_SMTP=n
SMTPHOST=smtp.example.com
SMTPUSER=smtp@example.com 
SMTPPASSWORD=smtppwd   
SMTPSSL=n
SMTPPORT=25
SMTPMAILFROM="My Company <myco@company.com>"
# Datacenter 2
IP1=IPorDNSnameOfNode1
IP2=IPorDNSnameOfNode2
IP3=IPorDNSnameOfNode3
IP7=IPorDNSnameOfNode7
IP8=IPorDNSnameOfNode8
IP9=IPorDNSnameOfNode9 
HOSTIP=$(hostname -i)
MSIP=$IP7
ADMIN_EMAIL=opdk@google.com
APIGEE_ADMINPW=Secret123
LICENSE_FILE=/tmp/license.txt
USE_LDAP_REMOTE_HOST=n
LDAP_TYPE=2
LDAP_SID=2
LDAP_PEER=$IP1
APIGEE_LDAPPW=secret
MP_POD=gateway-2
REGION=dc-2
ZK_HOSTS="$IP1 $IP2 $IP3 $IP7 $IP8 $IP9:observer"
ZK_CLIENT_HOSTS="$IP7 $IP8 $IP9"
# Must use IP addresses for CASS_HOSTS, not DNS names.
CASS_HOSTS="$IP7:2,1 $IP8:2,1 $IP9:2,1 $IP1:1,1 $IP2:1,1 $IP3:1,1"
SKIP_SMTP=n
SMTPHOST=smtp.example.com
SMTPUSER=smtp@example.com 
SMTPPASSWORD=smtppwd   
SMTPSSL=n
SMTPPORT=25
SMTPMAILFROM="My Company <myco@company.com>"

เพิ่มศูนย์ข้อมูลใหม่

ในขั้นตอนนี้ ศูนย์ข้อมูลจะมีชื่อดังนี้

  • dc-1: ศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่
  • dc-2: ศูนย์ข้อมูลใหม่

วิธีเพิ่มศูนย์ข้อมูลใหม่

  1. ใน dc-1 ให้เรียกใช้ setup.sh อีกครั้งบนโหนด Cassandra เดิมด้วยไฟล์การกําหนดค่า dc-1 ใหม่ที่มีโหนด Cassandra จาก dc-2 ดังนี้
    /opt/apigee/apigee-setup/bin/setup.sh -p ds -f configFile1
  2. ใน dc-1 ให้เรียกใช้ setup.sh อีกครั้งบนโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการ โดยทำดังนี้
    /opt/apigee/apigee-setup/bin/setup.sh -p ms -f configFile1
  3. ใน dc-2 ให้ติดตั้ง apigee-setup ในโหนดทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ติดตั้งยูทิลิตี apigee-setup ของ Edge
  4. ใน dc-2 ให้ติดตั้ง Cassandra และ ZooKeeper ในโหนดที่เหมาะสม ดังนี้
    /opt/apigee/apigee-setup/bin/setup.sh -p ds -f configFile2
  5. ใน dc-2 ให้เรียกใช้คำสั่ง rebuild ในโหนด Cassandra ทั้งหมดโดยระบุชื่อภูมิภาคของ dc-1 ดังนี้
    /opt/apigee/apigee-cassandra/bin/nodetool -h cassIP rebuild dc-1
  6. ใน dc-2 ให้ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์การจัดการบนโหนดที่เหมาะสม ดังนี้
    /opt/apigee/apigee-setup/bin/setup.sh -p ms -f configFile2
  7. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการใน dc-2 ให้ติดตั้ง apigee-provision ซึ่งจะติดตั้งยูทิลิตี apigee-adminapi.sh ดังนี้
    /opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-provision install
  8. ใน dc-2 ให้ติดตั้งเส้นทางและโปรแกรมประมวลผลข้อความในโหนดที่เหมาะสม ดังนี้
    /opt/apigee/apigee-setup/bin/setup.sh -p rmp -f configFile2
  9. ใน dc-2 ให้ติดตั้ง Qpid ในโหนดที่เหมาะสม ดังนี้
    /opt/apigee/apigee-setup/bin/setup.sh -p qs -f configFile2
  10. ใน dc-2 ให้ติดตั้ง Postgres ในโหนดที่เหมาะสม ดังนี้
    /opt/apigee/apigee-setup/bin/setup.sh -p ps -f configFile2
  11. ตั้งค่า Postgres master/standby สําหรับโหนด Postgres โหนด Postgres ใน dc-1 เป็นโหนดหลัก และโหนด Postgres ใน dc-2 เป็นเซิร์ฟเวอร์สแตนด์บาย
    1. ในโหนดหลักใน dc-1 ให้แก้ไขไฟล์การกําหนดค่าเพื่อตั้งค่าดังนี้
      PG_MASTER=IPorDNSofDC1Master
      PG_STANDBY=IPorDNSofDC2Standby
    2. เปิดใช้การจําลองในข้อมูลหลักใหม่ โดยทําดังนี้
      /opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql setup-replication-on-master -f configFIle
    3. ในโหนดสแตนด์บายใน dc-2 ให้แก้ไขไฟล์การกําหนดค่าเพื่อตั้งค่าดังนี้
      PG_MASTER=IPorDNSofDC1Master
      PG_STANDBY=IPorDNSofDC2Standby
    4. ในโหนดสแตนด์บายใน dc-2 ให้หยุดเซิร์ฟเวอร์แล้วลบข้อมูล Postgres ที่มีอยู่ ดังนี้
      /opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql stop
      rm -rf /opt/apigee/data/apigee-postgresql/
    5. กำหนดค่าโหนดสแตนด์บายใน dc-2 ดังนี้
      /opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-postgresql setup-replication-on-standby -f configFile
  12. ใน dc-1 ให้อัปเดตการกําหนดค่าข้อมูลวิเคราะห์และกําหนดค่าองค์กร
    1. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้รับ UUID ของโหนด Postgres ดังนี้
      apigee-adminapi.sh servers list -r dc-1 -p analytics -t postgres-server \
        --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost

      UUID จะปรากฏที่ส่วนท้ายของข้อมูลที่แสดง บันทึกค่านั้น

    2. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-2 ให้รับ UUID ของโหนด Postgres ตามที่แสดงในขั้นตอนก่อนหน้า บันทึกค่านั้น
    3. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้กําหนดชื่อกลุ่มข้อมูลวิเคราะห์และกลุ่มผู้บริโภค คำสั่งหลายรายการด้านล่างต้องใช้ข้อมูลดังกล่าว

      โดยค่าเริ่มต้น ชื่อของกลุ่มข้อมูลวิเคราะห์คือ "axgroup-001" และชื่อของกลุ่มผู้บริโภคคือ "consumer-group-001" ในไฟล์การกําหนดค่าแบบเงียบสําหรับภูมิภาค คุณสามารถตั้งชื่อกลุ่มการวิเคราะห์ได้โดยใช้พร็อพเพอร์ตี้ AXGROUP

      หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับชื่อของกลุ่มข้อมูลวิเคราะห์และกลุ่มผู้บริโภค ให้ใช้คําสั่งต่อไปนี้เพื่อแสดง

      apigee-adminapi.sh analytics groups list \
        --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost

      คำสั่งนี้จะแสดงชื่อกลุ่มข้อมูลวิเคราะห์ในช่องชื่อ และชื่อกลุ่มผู้บริโภคในช่อง consumer-groups

    4. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้นําเซิร์ฟเวอร์ Postgres ที่มีอยู่ออกจากกลุ่มข้อมูลวิเคราะห์ ดังนี้
      1. นําโหนด Postgres ออกจาก consumer-group โดยทําดังนี้
        apigee-adminapi.sh analytics groups consumer_groups datastores remove \
          -g axgroup-001 -c consumer-group-001 -u UUID \
          -Y --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost

        หาก dc-1 ได้รับการกําหนดค่าให้มีโหนด Postgres 2 โหนดที่ทํางานในโหมดหลัก/สแตนด์บาย ให้นําทั้ง 2 รายการออก ดังนี้

        apigee-adminapi.sh analytics groups consumer_groups datastores remove \
          -g axgroup-001 -c consumer-group-001 -u "UUID_1,UUID_2" \
          -Y --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost

      2. นำโหนด Postgres ออกจากกลุ่มข้อมูลวิเคราะห์ โดยทำดังนี้
        apigee-adminapi.sh analytics groups postgres_server remove \
          -g axgroup-001 -u UUID -Y --admin adminEmail \
          --pwd adminPword --host localhost

        หาก dc-1 ได้รับการกําหนดค่าให้มีโหนด Postgres 2 โหนดที่ทํางานในโหมดหลัก/สแตนด์บาย ให้นําทั้ง 2 โหนดออกโดยทำดังนี้

        apigee-adminapi.sh analytics groups postgres_server \
          remove -g axgroup-001 -u UUID1,UUID2 -Y --admin adminEmail \
          --pwd adminPword --host localhost
    5. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้เพิ่มเซิร์ฟเวอร์ Postgres หลัก/สำรองใหม่ลงในกลุ่มข้อมูลวิเคราะห์ โดยทำดังนี้
      1. เพิ่มเซิร์ฟเวอร์ Postgres ทั้ง 2 ตัวลงในกลุ่มข้อมูลวิเคราะห์ โดยทำดังนี้
        apigee-adminapi.sh analytics groups postgres_server \
          add -g axgroup-001 -u "UUID_1,UUID_2" --admin adminEmail \
          --pwd adminPword --host localhost

        โดยที่ UUID_1 สอดคล้องกับโหนด Postgres หลักใน dc-1 และ UUID_2 สอดคล้องกับโหนด Postgres สแตนด์บายใน dc-2

      2. เพิ่มเซิร์ฟเวอร์ PG ลงในกลุ่มผู้บริโภคเป็นเซิร์ฟเวอร์หลัก/สำรอง โดยทำดังนี้
        apigee-adminapi.sh analytics groups consumer_groups datastores \
          add -g axgroup-001 -c consumer-group-001 -u "UUID_1,UUID_2" --admin adminEmail \
          --pwd adminPword --host localhost
    6. เพิ่มเซิร์ฟเวอร์ Qpid จาก dc-2 ไปยังกลุ่มข้อมูลวิเคราะห์ โดยทำดังนี้
      1. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้รับ UUID ของโหนด Qpid ใน dc-2 ดังนี้
        apigee-adminapi.sh servers list -r dc-2 -p central -t qpid-server \
          --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost

        UUID จะปรากฏที่ส่วนท้ายของข้อมูลที่แสดง บันทึกค่าเหล่านั้น

      2. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้เพิ่มโหนด Qpid ลงในกลุ่มการวิเคราะห์ (เรียกใช้ทั้ง 2 คำสั่ง) ดังนี้
        apigee-adminapi.sh analytics groups qpid_server \
          add -g axgroup-001 -u "UUID_1" --admin adminEmail \
          --pwd adminPword --host localhost
        
        apigee-adminapi.sh analytics groups qpid_server \
          add -g axgroup-001 -u "UUID_2" --admin adminEmail \
          --pwd adminPword --host localhost
      3. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้เพิ่มโหนด Qpid ลงในกลุ่มผู้บริโภค (เรียกใช้ทั้ง 2 คำสั่ง) ดังนี้
        apigee-adminapi.sh analytics groups consumer_groups consumers \
          add -g axgroup-001 -c consumer-group-001 -u "UUID_1" \
          --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost
        
        apigee-adminapi.sh analytics groups consumer_groups consumers \
          add -g axgroup-001 -c consumer-group-001 -u "UUID_2" \
          --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost
    7. ยกเลิกการลงทะเบียนและลบเซิร์ฟเวอร์สแตนด์บาย Postgres เก่าออกจาก dc-1
      1. ยกเลิกการลงทะเบียนเซิร์ฟเวอร์สแตนด์บาย Postgres dc-1 ที่มีอยู่ โดยทำดังนี้
        apigee-adminapi.sh servers deregister -u UUID -r dc-1 \
          -p analytics -t postgres-server -Y --admin adminEmail \
          --pwd adminPword --host localhost

        โดยที่ UUID คือโหนด Postgres สแตนด์บายเดิมใน dc-1

      2. ลบเซิร์ฟเวอร์สแตนด์บาย Postgres dc-1 ที่มีอยู่ โดยทำดังนี้
        apigee-adminapi.sh servers delete -u UUID \
          --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost
  13. อัปเดตคีย์สเปซ Cassandra ด้วยปัจจัยการทําสําเนาที่ถูกต้องสําหรับศูนย์ข้อมูล 2 แห่ง คุณต้องทำขั้นตอนนี้เพียงครั้งเดียวบนเซิร์ฟเวอร์ Cassandra ในศูนย์ข้อมูลใดก็ได้ ดังนี้
    1. เริ่มยูทิลิตี cqlsh ของ Cassandra โดยทำดังนี้
      /opt/apigee/apigee-cassandra/bin/cqlsh cassandraIP
    2. เรียกใช้คำสั่ง CQL ต่อไปนี้ที่พรอมต์ "cqlsh>" เพื่อตั้งค่าระดับการจำลองข้อมูลสำหรับคีย์สเปซของ Cassandra
      1. ALTER KEYSPACE "identityzone" WITH replication = { 'class': 'NetworkTopologyStrategy', 'dc-1': '3','dc-2': '3' }; 
      2. ALTER KEYSPACE "system_traces" WITH replication = { 'class': 'NetworkTopologyStrategy', 'dc-1': '3','dc-2': '3' };
      3. ดูคีย์สเปซโดยใช้คําสั่งต่อไปนี้
        select * from system.schema_keyspaces;
      4. ออกจากสถานี cqlsh:
        exit
  14. เรียกใช้คำสั่ง nodetool ต่อไปนี้บนโหนด Cassandra ทั้งหมดใน dc-1 เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างในหน่วยความจำ
    /opt/apigee/apigee-cassandra/bin/nodetool -h cassandraIP cleanup
  15. สำหรับแต่ละองค์กรและแต่ละสภาพแวดล้อมที่คุณต้องการรองรับในศูนย์ข้อมูลต่างๆ ให้ทำดังนี้
    1. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้เพิ่ม MP_POD ใหม่ลงในองค์กร ดังนี้
      apigee-adminapi.sh orgs pods add -o orgName -r dc-2 -p gateway-2 \
        --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost

      โดยที่ gateway-2 คือชื่อของพ็อดเกตเวย์ตามที่ระบุโดยพร็อพเพอร์ตี้ MP_POD ในไฟล์การกําหนดค่า dc-2

    2. เพิ่มตัวประมวลผลข้อความใหม่ลงในองค์กรและสภาพแวดล้อมโดยทำดังนี้
      1. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-2 ให้รับ UUID ของโหนดโปรแกรมประมวลผลข้อความใน dc-2 โดยทำดังนี้
        apigee-adminapi.sh servers list -r dc-2 -p gateway-2 \
          -t message-processor --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost

        UUID จะปรากฏที่ส่วนท้ายของข้อมูลที่แสดง บันทึกค่าเหล่านั้น

      2. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้เพิ่มตัวประมวลผลข้อความแต่ละรายการใน dc-2 ไปยังสภาพแวดล้อมขององค์กร ดังนี้
        apigee-adminapi.sh orgs envs servers add -o orgName -e envName \
          -u UUID --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost
    3. ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการของ dc-1 ให้ตรวจสอบองค์กร ดังนี้
      apigee-adminapi.sh orgs apis deployments -o orgName -a apiProxyName \
        --admin adminEmail --pwd adminPword --host localhost

      โดยที่ apiProxyName คือชื่อของพร็อกซี API ที่ติดตั้งใช้งานในองค์กร