Edge for Private Cloud v4.19.01
ถ้ากระบวนการติดตั้งหรือกำหนดค่าล้มเหลว ก่อนอื่นคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า พอร์ตเปิดอยู่และเข้าถึงได้
- โหนด apigee-ssoต้องเข้าถึงโหนด Postgres บนพอร์ต 5432 ได้
- พอร์ต 9099 ใน apigee-ssoโหนดต้องเปิดสำหรับการเข้าถึง HTTP ภายนอกจาก Edge UI และ SAML IDP หากคุณ กำหนดค่า TLS ในapigee-ssoหมายเลขพอร์ตอาจแตกต่างออกไป
- โหนด apigee-ssoต้องเป็น สามารถเข้าถึง SAML IDP ใน URL ที่ระบุโดยSSO_SAML_IDP_METADATA_URL
- โหนด apigee-ssoต้องเข้าถึงพอร์ต 8080 ในเซิร์ฟเวอร์การจัดการได้
หากพอร์ตที่จำเป็นทั้งหมดเปิดอยู่และเข้าถึงได้ คุณสามารถเรียกใช้ขั้นตอนการกำหนดค่าอีกครั้งได้โดยทำดังนี้
- สำหรับ apigee-sso:/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-sso setup -f configFile 
- สำหรับ Edge UI
      /opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service edge-ui configure-sso -f configFile 
หากการกำหนดค่าใหม่ใช้งานได้ คุณสามารถลบฐานข้อมูล Postgres ที่ใช้โดย
  apigee-sso แล้วกำหนดค่า apigee-sso และ Edge UI อีกครั้ง ดังนี้
- ปิดใช้ SAML ใน Edge UI ตามที่อธิบายไว้ใน ปิดใช้ SAML
- หยุด apigee-sso:/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-sso stop 
- เข้าสู่ระบบโหนด Postgres และวางฐานข้อมูล Postgres โดยทำดังนี้
      psql -U postgres_username -p postgres_port -h postgres_host -c "drop database \"apigee_sso\"" โดยมี - postgres_username คือชื่อผู้ใช้ Postgre ที่คุณระบุเมื่อติดตั้ง
          Edge ค่าเริ่มต้นคือ apigee
- postgres_port คือพอร์ต Postgres ที่คุณระบุเมื่อติดตั้ง Edge ค่าเริ่มต้นคือ 5432
- postgres_host คือ IP หรือชื่อ DNS ของโหนด Postgres
 
- postgres_username คือชื่อผู้ใช้ Postgre ที่คุณระบุเมื่อติดตั้ง
          Edge ค่าเริ่มต้นคือ 
- กำหนดค่า apigee-ssoใหม่:/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service apigee-sso setup -f configFile 
- กำหนดค่า Edge UI ใหม่ดังนี้
      /opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service edge-ui configure-sso -f configFile