โดยค่าเริ่มต้น คอมโพเนนต์ Edge จะใช้ระดับการบันทึกที่ INFO
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถตั้งค่า
ระดับการบันทึกสำหรับคอมโพเนนต์ Edge แต่ละรายการ เช่น คุณอาจต้องการตั้งค่าเป็น DEBUG
สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลข้อความ หรือไปยัง ERROR
สำหรับเซิร์ฟเวอร์การจัดการ
ระดับการบันทึกที่ใช้ได้มีดังนี้
ALL
DEBUG
ERROR
FATAL
INFO
OFF
TRACE
WARN
หากต้องการตั้งค่าระดับการบันทึกสำหรับคอมโพเนนต์ ให้แก้ไขไฟล์คุณสมบัติของคอมโพเนนต์เพื่อตั้งค่าโทเค็น จากนั้น รีสตาร์ทคอมโพเนนต์
- สำหรับ Edge UI โทเค็นคือ
conf_logger_settings_application_log_level
และconf_logger_settings_play_log_level
ให้ตั้งค่าให้เป็นค่าเดียวกัน - สำหรับคอมโพเนนต์ Edge อื่นๆ ทั้งหมด โทเค็นจะเป็น
conf_system_log.level
วิธีตั้งค่าระดับการบันทึกสำหรับคอมโพเนนต์ Edge UI
- เปิด
/opt/apigee/customer/application/ui.properties
ในเครื่องมือแก้ไข หากไฟล์ ไม่มีอยู่ ให้สร้างขึ้นใหม่ - ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ต่อไปนี้ใน
ui.properties
ในระดับการบันทึกที่ต้องการ สำหรับ ตัวอย่างเช่น หากต้องการตั้งค่าเป็นDEBUG
วันที่conf_logger_settings_application_log_level=DEBUG conf_logger_settings_play_log_level=DEBUG
- บันทึกไฟล์
- ตรวจสอบว่า "Apigee" เป็นเจ้าของไฟล์พร็อพเพอร์ตี้ ผู้ใช้:
chown apigee:apigee /opt/apigee/customer/application/ui.properties
- รีสตาร์ท Edge UI ดังนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service edge-ui restart
วิธีตั้งค่าระดับการบันทึกสำหรับคอมโพเนนต์อื่นๆ
- เปิด
/opt/apigee/customer/application/component_name.properties
ใน โปรแกรมแก้ไข โดยที่ component_name อาจเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้apigee-cassandra
(คาสซานดรา)apigee-openldap
(OpenLDAP)apigee-postgresql
(ฐานข้อมูล PostgreSQL)apigee-qpidd
(Qpidd)apigee-sso
(SSO ของ Edge)apigee-zookeeper
(ZooKeeper)edge-management-server
(เซิร์ฟเวอร์การจัดการ)edge-management-ui
(UI ใหม่ของ Edge)edge-message-processor
(ตัวประมวลผลข้อความ)edge-postgres-server
(เซิร์ฟเวอร์ Postgres)edge-qpid-server
(เซิร์ฟเวอร์ Qpid)edge-router
(เราเตอร์ Edge)edge-ui
(UI แบบคลาสสิก)
หากไม่มีไฟล์ ให้สร้างขึ้นมา
- ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ต่อไปนี้ในไฟล์พร็อพเพอร์ตี้เป็นระดับการบันทึกที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น
เพื่อตั้งเป็น
DEBUG
: วันที่conf_system_log.level=DEBUG
- บันทึกไฟล์
- ตรวจสอบว่า "Apigee" เป็นเจ้าของไฟล์พร็อพเพอร์ตี้ ผู้ใช้:
chown apigee:apigee /opt/apigee/customer/application/component_properties_file_name.properties
- รีสตาร์ทคอมโพเนนต์โดยใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้
/opt/apigee/apigee-service/bin/apigee-service component_name restart
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชื่อและตำแหน่งของไฟล์การกำหนดค่าคอมโพเนนต์ โปรดดู ตำแหน่งของไฟล์พร็อพเพอร์ตี้