หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

4.52.00.02 - Edge สำหรับบันทึกประจำรุ่นของ Private Cloud

คุณกำลังดูเอกสาร Apigee Edge
ไปที่เอกสารประกอบของ Apigee X ข้อมูล

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2023 เราได้เปิดตัว Apigee Edge เวอร์ชันใหม่สำหรับ Private Cloud

หมายเหตุ: ระบบจะรองรับเวอร์ชันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2024

ขั้นตอนการอัปเดต

หัวข้อนี้จะอธิบายวิธีติดตั้งรุ่นนี้หากคุณกำลังอัปเดตจาก Edge สำหรับ Private Cloud รุ่นก่อนหน้า หากต้องการอัปเดตจากรุ่นก่อนหน้า โปรดดูการใช้แพตช์หลายเวอร์ชัน

การอัปเดตรุ่นนี้จะอัปเดตคอมโพเนนต์ใน RPM ต่อไปนี้

edge-gateway-4.52.00-0.0.60193.noarch.rpm
edge-management-server-4.52.00-0.0.60193.noarch.rpm
edge-postgres-server-4.52.00-0.0.60193.noarch.rpm
edge-qpid-server-4.52.00-0.0.60193.noarch.rpm
edge-router-4.52.00-0.0.60193.noarch.rpm
apigee-cassandra-client-2.1.22-0.0.2521.noarch.rpm
edge-analytics-4.52.00-0.0.40092.noarch.rpm
apigee-sosreport-5.0-0.0.2513.noarch.rpm
edge-management-ui-static-4.52.00-0.0.20045.noarch.rpm
apigee-configutil-4.52.00-0.0.621.noarch.rpm
apigee-postgresql-14.5-0.0.2743.noarch.rpm

หมายเหตุ: sosreport ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลระดับระบบจะติดตั้งโดยค่าเริ่มต้นแล้ว ตัวแทนฝ่ายสนับสนุนของ Apigee จะใช้ sosreport เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่คุณอาจพบได้ เครื่องมือจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลใดๆ เว้นแต่จะมีการเรียกใช้

คุณตรวจสอบเวอร์ชัน RPM ที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบันได้เพื่อดูว่าจำเป็นต้องอัปเดตหรือไม่โดยป้อน

apigee-all version

หากต้องการอัปเดตการติดตั้ง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้กับโหนด Edge

ในโหนด Edge ทั้งหมด
1. ทำความสะอาดที่เก็บ Yum:
```
sudo yum clean all
```
2. ดาวน์โหลดไฟล์ Edge 4.52.00 ล่าสุด bootstrap_4.52.00.sh ไปยัง /tmp/bootstrap_4.52.00.sh:
```
curl https://software.apigee.com/bootstrap_4.52.00.sh -o /tmp/bootstrap_4.52.00.sh
```
3. ติดตั้งยูทิลิตีและทรัพยากร Dependency ของ Edge 4.52.00 apigee-service:
```
sudo bash /tmp/bootstrap_4.52.00.sh apigeeuser=uName apigeepassword=pWord
```
  โดยที่ uName และ pWord คือชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่คุณได้รับจาก Apigee หากคุณไม่ใส่ pWord ระบบจะแจ้งให้คุณป้อน
4. ใช้คำสั่ง source เพื่อเรียกใช้สคริปต์ apigee-service.sh:
```
source /etc/profile.d/apigee-service.sh
```
อัปเดตโหนด Postgres (หลักและสแตนด์บาย):
```
/opt/apigee/apigee-setup/bin/update.sh -c ps -f configFile
```
อัปเดต Analytics ในโหนดเซิร์ฟเวอร์การจัดการ:
```
apigee-service edge-analytics update
```
ในโหนด Edge ทั้งหมด ให้เรียกใช้สคริปต์ update.sh สำหรับกระบวนการ Edge:
```
/opt/apigee/apigee-setup/bin/update.sh -c edge -f configFile
```
หากคุณใช้ประสบการณ์การใช้งาน Edge ใหม่ ให้เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้
```
apigee-service edge-management-ui-static update
```
```
/opt/apigee/apigee-setup/bin/update.sh -c ue -f configFile
```

ปัญหาด้านความปลอดภัยได้รับการแก้ไขแล้ว

ไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัยในรุ่นนี้

การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ ซอฟต์แวร์ที่รองรับ

ส่วนซอฟต์แวร์ที่รองรับในรุ่นนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

การเลิกใช้และการเกษียณ

นั่นไง

รุ่นนี้ไม่มีการเลิกใช้งานหรือการเลิกใช้งานใหม่

ฟีเจอร์ใหม่

รุ่นนี้มีฟีเจอร์ใหม่ดังต่อไปนี้

ระบบจะลบระเบียนการตรวจสอบโดยอัตโนมัติหลังจากสร้าง 400 วัน

ระบบได้เพิ่มฟีเจอร์เพื่อลบระเบียนการตรวจสอบโดยอัตโนมัติภายใน 400 วันหลังจากสร้าง ก่อนหน้านี้ระบบจะสร้างบันทึกการตรวจสอบขึ้นมาโดยไม่มีเวลาในการทำงาน จึงสะสมไว้ใน Cassandra

คุณเปลี่ยนกลับฟีเจอร์นี้ไม่ให้ลบบันทึกการตรวจสอบได้โดยตั้งค่า conf_audit_cassandra.ttl.value เป็น -1 ในเซิร์ฟเวอร์การจัดการ นอกจากนี้ คุณยังเปลี่ยนจำนวนวันที่ต้องการเก็บรักษาบันทึกการตรวจสอบได้โดยแก้ไขค่า conf_audit_cassandra.ttl.value เป็นมิลลิวินาทีในเซิร์ฟเวอร์การจัดการ โปรดทราบว่าฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับบันทึกการตรวจสอบที่สร้างขึ้นใหม่เท่านั้น แต่จะไม่ใช้กับการตรวจสอบระเบียนที่สร้างขึ้นในระบบในอดีต

การเพิ่มประสิทธิภาพเป็น `conf_keymanagement_oauth_refresh_token_expiry_time_in_millis`

ขณะนี้การลบล้างการกำหนดค่า conf_keymanagement_oauth_refresh_token_expiry_time_in_millis ไม่เพียงตั้งค่าเวลาหมดอายุของโทเค็นเริ่มต้น แต่ยังกำหนดเพดานสำหรับการหมดอายุของโทเค็นการรีเฟรชใน Cassandra อีกด้วย

แก้ไขข้อบกพร่อง

ส่วนนี้จะแสดงข้อบกพร่องของ Private Cloud ที่ได้รับการแก้ไขในรุ่นนี้

รหัสปัญหา	คำอธิบาย
234582218	สคริปต์ Python เครื่องคำนวณโทเค็น `apigee-cassandra-calc.py` ที่ใช้ในการคำนวณโทเค็นเริ่มต้นสำหรับริง Cassandra ตามพร็อพเพอร์ตี้ `CASS_HOSTS` ในไฟล์การกำหนดค่าแบบไม่มีเสียง ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว
274884575	การเรียกใช้ API ทางสถิติบางรายการที่มีมิติข้อมูลที่มี `groupid` ล้มเหลว ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว
286971552	สคริปต์ Postgres ที่แก้ไขแล้วใน `edge-postgres-server` ในไฟล์การกำหนดค่าแบบไม่มีการแจ้งเตือน เพื่อให้สคริปต์ทำงานได้กับค่าเริ่มต้นของตัวแปรที่ไม่ได้ระบุในระหว่างการติดตั้ง
276444350	หลังจากอัปเกรด Edge สำหรับ Private Cloud เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว คุณจะเพิ่ม ดู หรือแก้ไขรายละเอียดโฮสต์เสมือนใน Edge UI ใหม่ที่ผู้ดูแลระบบ > โฮสต์เสมือนไม่ได้ ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว
277723022	ทำการแก้ไข `config.log` เพื่อเก็บการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาในบันทึกไว้

ปัญหาที่ทราบ

โปรดดูรายการปัญหาที่ทราบทั้งหมดที่หัวข้อปัญหาที่ทราบเกี่ยวกับ Edge สำหรับ Private Cloud

กำลังใช้แพตช์หลายเวอร์ชัน

หัวข้อนี้จะอธิบายวิธีใช้แพตช์หลายเวอร์ชัน ในกรณีที่คุณอัปเดตจาก Edge สำหรับ Private Cloud เวอร์ชันเก่ากว่าแพตช์เวอร์ชันก่อนหน้า

แต่ละรุ่นแพตช์มีการอัปเดตคอมโพเนนต์เฉพาะของ Edge สำหรับ Private Cloud เช่น edge-management-server หากต้องการใช้แพตช์หลายเวอร์ชัน คุณต้องอัปเดตคอมโพเนนต์ Edge แต่ละรายการที่รวมอยู่ในรุ่นแพตช์ซึ่งช้ากว่าเวอร์ชันที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบัน คุณค้นหาคอมโพเนนต์เหล่านี้ได้โดยดูที่บันทึกประจำรุ่นของ Edge for Private Cloud สำหรับทุกเวอร์ชันที่ใหม่กว่าเวอร์ชันปัจจุบัน และตรวจสอบรายการ RPM สำหรับรุ่นเหล่านั้น โปรดดูบันทึกประจำรุ่นของ Apigee สำหรับลิงก์ไปยังบันทึกประจำรุ่นทั้งหมดของ Edge สำหรับ Private Cloud

หมายเหตุ: คุณต้องอัปเดตแต่ละคอมโพเนนต์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยการติดตั้ง RPM สำหรับคอมโพเนนต์เวอร์ชันล่าสุดที่รวมอยู่ในแพตช์รุ่นต่างๆ ทำตามวิธีการในบันทึกประจำรุ่นสำหรับเวอร์ชันนั้นเพื่ออัปเดตคอมโพเนนต์

หมายเหตุ: การอัปเกรดคอมโพเนนต์จะติดตั้งแพตช์เวอร์ชันล่าสุดของคอมโพเนนต์โดยอัตโนมัติ หากต้องการอัปเกรดเป็นแพตช์เวอร์ชันที่ไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด คุณต้องเก็บรักษาสำเนา tarball ของที่เก็บ Apigee ของตัวเองโดยใช้มิเรอร์ Apigee และใช้มิเรอร์นี้สำหรับการติดตั้ง Apigee ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การใช้ที่เก็บ Edge ในเครื่องเพื่อรักษาเวอร์ชัน Edge ของคุณ